วันพฤหัสบดีที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2556

ตัดผมวันไหนดี...?

ตัดผม วันไหนดี...?

     เคยได้ยินมั้ยครับ ห้ามตัดผมวันพุธ? และส่วนใหญ่วันพุธร้านก็ปิดกันซะเป็นส่วนใหญ่ เออ...ทำไมนะ...? ก็ฟังกันมาแต่โบราณกาลตั้งแต่เด็ก ๆ นั่นแหละครับ คนเฒ่าคนแก่ ก็สอนกันมาตั้งแต่บรรพบุรุษ หลายคนไม่รู้สาเหตุที่มาที่ไป ก็เชื่อกันไปต่าง ๆนา จึงเป็นที่มาของบทความนี้ เพื่อคลายข้อสงสัยของหลาย ๆ คน 

     โดยส่วนตัว ในชีวิตวัยเด็กผมก็ต้องเชื่อคำกล่าวของผู้ใหญ่อย่าตัดนะวันพุธ ตัดแล้วซวย ตัดแล้วจะเป็นหย่างงั้นอย่างงี้สารพัด แต่แล้วช่วงสมัย ม.ต้น มันมีเหตุซึ่งจำเป็นจะต้องไปตัดวันพุธ เพราะเค้าจะตรวจทรงผม สมัยนั้น ร้านตัดผมในวันพุธเรียกได้ว่า หายากไม่ต่างจาก หาแท็กซี่ช่วงเย็น (เปรียบเทียบซะเห็นภาพคนเมืองกรุง)  มีอยู่ร้านนึง ห่างจากบ้านพอสมควร ช่างเป็นลุงแก่ ๆ คนนึง ในร้าน มีช่าง อีก 3-4 คน ร้านนี้เปิดทุกวัน เอ้ารอดแล้ว ยังไงพรุ่งนี้ ไม่โดน อาจารย์ฝ่ายปกครอง จดชื่อแน่เรา ฮ่า ๆ ... เมือถึงคิวของผม ระหว่างตัดผม ผมถามช่างว่า พี่ ๆ ทำไมวันนี้ร้านเปิด..? ร้านอื่นเค้าปิดวันพุธ คุณพี่ช่างตัดผมเค้าบอกว่า ร้านอื่นปิด ร้านเราเปิด ก็ได้ลูกค้าเพิ่มอีกหลายหัวนะน้อง... จริงอย่างที่พี่เค้าว่า วันที่ผมไปตัด ร้านนี้ก็มีลูกค้ามาตัดอยู่เรื่อย ๆ ในร้านมีเศษผมจากลูกค้ากระจายอยู่เต็มพื้น แล้วลุงเจ้าของร้าน ก็เดินมาที่เก้าอี่ตัดผมข้าง ๆ นั่งลง และเล่าให้ฟังจับใจความลาง ๆ ได้ว่า สมัยก่อน สมัยโบราณ วันพุธเป็นวันที่พระมหากษัตริย์ตัดผม ซึ่งแน่นอน ในสมัยก่อนช่างตัดผมฝีมือดี ไม่ได้มีมากมายเหมือนปัจจุบัน ครั้น  จะให้พระมหากษัตริย์เสด็จออกจากวัง เพื่อมาหาช่างยังที่พำนัก ก็ยากที่จะเป็นเรื่องง่าย ดังนั้น ในวันพุธ จะมีการเรียกตัวช่างฝีมือดีจากรอบ ๆ เมือง เข้ามาในวังเพื่อทำหน้าที่นี้ให้แก่พระมหากษัตริย์ ด้วยระบบการปกครองสมบูรณายาสิทธิราช จึงมิอาจขัดขืนได้ ประชาชนธรรมดา ย่อมมิอาจหาช่างตัดผมได้ในวันนี้เช่นกัน เพราะถูกเรียกเข้าวังหมด แต่เพราะคนโบราณ ย่อมไม่อยากให้ ญาติพี่น้องที่เป็นช่างตัดผม ต้องได้รับโทษหากไม่ว่าง หรือไม่ไปตามรับสั่ง หรือไม่อยากไปตัดให้บุคคลอื่นในวันนี้ จึงคิดกุศโลบายขึนมา ว่า หากใครตัดผมในวันนี้ ต้องตาย ต้องถูกประหาร เจ็ดชั่วโคตร เพื่อให้ช่างตัดผมทั้งหมด ว่างในวันพุธ จึงกลายเป็นความเชื่อมาแต่โบราณ ว่า ทำไมวันพุธถึงตัดแล้วไม่ดี ตัดแล้วซวยตลอดมาจนปัจจุบัน...ณ ตอนนั้น ผมจึงกระจ่างได้ว่า มันไม่ได้มีเหตุร้ายแรงอะไรหรอก หากว่าจะมาตัดในวันพุธ แต่ด้วยความเป็นเด็ก ก็ยังไม่ถึงกับเชื่อ หมดร้อยเปอร์เซนต์ 
     เมื่อผมได้ผันตัวเองมาประกอบอาชีพช่างผม และมีโอกาสได้ค้นหาความรู้มากขึ้น วันนึง ผมได้เข้าอบรม ผลิตภัณฑ์ ยี่ห้อดัง ซึ่งได้ ทำการเชิญ วิทยากรซึ่งเป็น ช่างผม ชื่อดัง เจ้าของร้าน ชลาชล และในวันนั้น คุณ สมศักดิ์ ชลาชล ได้พูดถึงหัวข้อนี้เช่นกัน ซึ่งมีเนื้อหา คล้ายคลึงกับที่ผมเคยได้ยินในสมัยเด็ก เรื่องราวอาจไม่เหมือนกันทั้งหมด แต่โดยรวมจัดว่า เป็นเรื่องที่แหล่งที่มาทางเดียวกันอีกทั้งรูปแบบร้านตัดผมยุคปัจจุบัน ซึ่งถอดแบบจากสไตล์ต่างประเทศ ไม่ว่า จะเป็น ญี่ปุ่น เกาหลี อเมริกา หรือทางฝั่งยุโรป ทุกประเทศ ที่เจริญแล้ว เค้าก็เปิดตัดกันไม่เว้นวันหยุด ยิ่งเป็นวันหยุดยิ่งต้องเปิด คนหยุดงาน ว่างต้องมาทำหล่อ ทำสวย กันอยู่แล้ว ดังนั้นคำว่า อาถรรพ์วันพุธ ตัดแล้วไม่ดี น่าจะคลายความสงสัยให้กับหลาย ๆ ท่านได้แล้วว่า ตัดแล้วเป็นดังคำล่ำลือ หรือปล่าว (ไม่งั้น ต่างประเทศเค้าคงซวยกันหมดพอดี)  อะไรหลาย ๆ อย่าง หากเรารู้ที่มาและที่ไปของมัน มันก็ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่เราคิดไปซะหมดหรอก  แต่เพื่อความสบายใจของหลาย ๆ ท่าน ผมมี วันดี สำหรับ การตัดผมมาฝากจากบนเฟสบุ๊ค (ไม่ทราบแหล่งที่มา ขออภัยจริง ๆ)
     อันที่จริงก่อนจากอยากฝากให้ได้คิดสักนิดครับ หากท่านใดที่ประสงค์จะตัดผมจริง ๆ แล้ว วันไหน ๆ ก็สะดวกครับ ขอเพียงคุณว่าง และช่างประจำของคุณว่าง จัดเวลาให้ตรงกันทั้งสองฝ่ายไม่ว่าจะทางโทรศัพท์ หรือ ทางสื่อออนไลน์ โซเชียล ใด ๆ ก็ตาม แค่นี้ ก็เพียงพอแล้ว สำหรับการตัดผม ของคุณ...

ผมดัด ดัดผม...? แล้วมันเซ็ทยังไงอ่ะ...?

ผมดัด ดัดผม...? แล้วมันเซ็ทยังไงอ่ะ...?
     เชื่อว่า  หลายท่านคงเคยเจอปัญหานี้มาก่อน    และเชื่อว่าหลายท่านแก้ปัญหานี้ไม่ตก แน่นอนครับ ทุกท่านอยากสวยเหมือนดารา คนนั้น คนนี้ โอ้โห...เค้าดัดผมสวยจัง เอามั่งดีกว่าเรา และผมมั่นใจว่าสาว ๆ หลายท่านจะต้องพบกับความผิดหวัง ประโยคที่ผมฟังจนชิน อย่างเช่น อยากได้ลอนใหญ่ ๆ แต่แบบนี้มันไม่ใช่ค่ะ  ตอนออกจากร้านสวยมากพอกลับไปสระเองที่บ้านมันก็คลายค่ะ  พี่คะช่วยหน่อยผมไม่เป็นทรงเลย....ฯลฯ อะไรประมาณนี้แหละครับ ที่เจอบ่อย ๆ

     ก่อนอื่นใด อยากให้ทบทวนคำถามเหล่านี้ให้กับตัวคุณเองก่อนว่า คุณทำได้ไหม คำถามที่ว่าคือ คุณชอบที่จะดัดผมจริงหรือปล่าว และคุณมีเวลา อยู่หน้ากระจกวันละ 15-20 นาที มั้ย ถ้าคำตอบของคุณ คือ อยากลองดัดดู หรือ ชั้นไม่มีเวลาขนาดนั้น ผมขอแนะนำว่า ให้เปลี่ยนจากดัดถาวร ไม่ว่าจะใช้น้ำยาดัดด้วยมือ หรือ สปาเพิร์ม ก็ตาม เป็นการม้วนชั่วคราวด้วยเครื่องม้วนไฟฟ้า จะดีกว่า .. เพราะผมดัดจะออกมาสวยก็ต่อเมื่อคุณเซ็ทผม และคุณต้องทำเป็นประจำ ผมคุณถึงจะออกมาสวยเด้งดึ๋งเป็นลอนอยู่ตลอด และอีกอย่าง ขอให้เช็คสภาพผมของคุณก่อนว่าควรหรือไม่กับการดัดซึ่งต้องโดนน้ำยาสารเคมีเพื่อเปลี่ยนโครงสร้างเส้นผมของคุณให้เป็นลอน อย่างที่ต้องการ ถ้าผมเสียมาก แตกปลาย ปลายเป็นสีเหลืองมาก ๆ เปื่อยยุ่ย ก็ไม่ควรทำด้วยประการทั้งปวงนะครับ... (แต่ส่วนใหญ่เวลาเตือนก็ไม่ค่อยฟังกัน แล้วก็จะแอบไปทำที่อื่น ผมเสียแล้วก็กลับมาถามอีกว่า แก้ยังไงดี...เฮ้อ...!!)
     ทีนี้เรามาเข้าเรื่องของเรากันดีกว่า ว่าด้วยเรื่องการเซ็ทผมดัด อย่างง่าย ด้วยตัวคุณเอง สิ่งที่ทุกท่านต้องเตรียมและต้องมี คือ อาหารผม ชนิดสเปรย์ ทำไมต้องเป็นสเปรย์ แบบเป็นน้ำมันไม่ได้เหรอ ..? ผมขอตอบอย่างนี้ครับ น้ำมันจะทำให้ผมของคุณหนัก ในขณะที่ผมดัดของคุณต้องการ ความเบา เพื่อให้ผมเป็นสปริง ในที่นี้ผมจึงแนะนำให้ใช้ ชนิดสเปรย์ครับ...อุปกรณ์ชิ้นต่อไป ไดร์เป่าผม จำเป็นอย่างยิ่ง ไม่งั้นต้องนั่งตากพัดลมกันยาว...และไฮไลท์ของงานคือเจ้าสิ่งที่เรียกว่า ครีมจับลอนผมดัด หลายท่านอาจไม่เคยใช้ บางคนใช้แต่มูส หรือ น้ำมันใส่ผม เหมือนคนสูงวัยที่ชอบดัดผมหยิก ๆ ฟู ๆ แล้วใส่น้ำมันเยิ้ม ๆ แบบนั้นไม่ทำให้ผมเป็นลอนนะครับ มีแต่จะทำให้ดูแก่ลงไปอีกนะนั่น...(เชื่อว่าหลายคนยังทำเช่นนี้ แนะนำให้เลิกซะ ถ้าอยากเป็นสาวเกาหลี...)  และเมื่อได้อุปกรณ์ครบแล้ว เรามาเริ่มกัน...!!!
     หลังจากสระผมเสร็จ ใส่ครีมนวดหรือทรีทเม้นต์(ควรหาที่เหมาะกับผมดัดโดยเฉพาะ เพราะเนื้อครีมจะมีน้ำหนักเบากว่า พวกทรีทเม้นต์ที่ทำให้ผมตรงเงางามนะครับ) สางผมที่พันกันออกให้หมด ล้างให้สะอาด แล้วม้วนผมขยำพอให้ผมเข้าที่ ซับผมให้หมาด ๆ จากนั้นฉีด สเปรย์อาหารผมที่เตรียมไว้ ให้ทั่ว หวีจัดทรง แสกผม ทำหน้าม้า ให้เสร็จ หวีที่ใช้ควรเป็นหวีที่มีซี่ใหญ่  ๆ ห่าง ๆ ตามรูปนี้นะครับ จากนั้น เป่าผมให้แห้ง เริ่มจากโคนผมก่อน พอโคนเริ่มแห้ง เราจะทำการแบ่งผมเป็นฝั่งซ้าย และขวา จากด้านหลัง แล้วเริ่มเป่าผมที่ละด้าน โดยระหว่างการเป่า ให้เราม้วนผมไปด้วย ม้วนเข้าหรือออกได้ตามถนัดม้วนด้วยนิ้วมือของเราเองนี่แหละครับ แต่ ต้องส่องไดร์เป่าผมให้ลมไปยังด้านเดียวกับที่เราม้วน อย่าให้ลมสวนทางกัน เดี๋ยวผมจะกระจายออกหมด ทำให้เหมือนกันทั้งสองด้านจากนั้น พอผมแห้ง จะเริ่มเห็นผมเป็นลอนใหญ่ ๆ คลาย ๆ แต่ยังไม่เด้ง ตัวช่วยสำคัญของเราคือ ครีมจับลอนผมดัด ตามท้องตลาดมีมากมายหลายยี่ห้อให้เลือก เอาที่เป็นเนื้อครีมนะ ถ้าให้แนะนำ ที่ร้านใช้ตัวนี้นะ ดีทีเดียวราคาไม่แพง ร้อยนิด ๆ Nutri Flex ของ Dipso คุณภาพ สูสีกับยี่ห้อต่างประเทศเลยทีเดียว เอ้าว่ากันต่อ หลังจากผมแห้งเป็นลอน จับผมม้วน และแบ่งช่อ หรือ ไม่แบ่งก็ได้ บีบครีมลงไป ไม่ต้องเยอะ เอาแค่ 2-3 เม็ดข้าวโพด (ประมาณเอานะ) ถูทั่วฝ่ามือ แล้ว ขยำเบา ๆ ไปที่ลอนผมของคุณ ตรงใหนที่อยากให้มีลอนมาก ก็เน้นหน่อย แล้วรับรองว่า จะได้ผมลอนสวยเด้งดึ่ง ออกมาเป็นสาวเกาหลีเลยทีเดียว เสร็จแล้ว ฉีดสเปรย์นิดหน่อย จัดทรงให้อยู่ตัวเป็นอันว่า ภาระกิจเซ็ทผมของคุณเสร็จสิ้นแล้ว ...!! หากยังไม่เข้าใจ อ่านแล้วงง ชั้นทำตามไม่ได้... ผมมีรีวิว ของ 2 สาว ด้านล่าง มาฝาก สำหรับท่านที่ยังไม่เข้าใจ ผมรับรองว่า ดูแล้วทำตามได้ไม่ยากอย่างที่คิด 



     ทิ้งท้ายอีกนิดครับ หลังจากดัดผมแล้วอย่างน้อย 72 ชั่งโมง หรือ สามวัน อย่าเพิ่งสระผมก่อน เพราะ ผมที่พึ่งโดนเคมี ยังทำปฎิกิริยาอยู่ หากรีบสระล้างเสียก่อน จะทำให้ผมอาจไม่ได้ความเป็นลอนที่ต้องการ ดังนั้น ทางที่ดี ช่างผมควรพิจารณา วันสระผมที่ถูกต้องให้แก่ลูกค้าด้วยเพื่อความเข้าใจถูกต้องและตรงกัน อาจนัดลูกค้ามาสระที่ร้าน หรือ ให้ลูกค้าสระเองก็ตามสะดวก 

วันอังคารที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2556

หากินกับเส้นผม

หากินกับเส้นผม


     สมัยเด็ก ๆ ใคร ๆ ก็ต้องเคยอาศัยบริการจากร้านตัดผม ทำผม ไม่ว่าชายหรือหญิง แล้วเคยคิดไหมว่า วันหนึ่ง ตัวเองจะกลายมาเป็นคนที่ทำมาหากินเลี้ยงครอบครัวด้วยอาชีพที่เรียกได้ว่า หากินกับเส้นผม หรือความสวยความงาม...?

     ผมเชื่อว่า ทุกวันนี้ ยังมีอีกหลายคนที่มีความคิดที่ว่า "ไม่รู้จะให้ทำมาหากินอะไร ส่งไปเรียนเสริมสวยซะดีกว่า" เหมือนกับว่า อาชีพนี้เป็นอาชีพสิ้นคิดก็ว่าได้ แต่ทำไม...? ใครหลาย ๆ คนถึงได้ประสบความสำเร็จกับอาชีพ ช่างเสริมสวย ช่างตัดผม มีรายได้เป็นกอบเป็นกรรม สร้างแบรนด์ให้ตัวเองจนมีชื่อเสียงโด่งดัง...??


     เคยคิดมั้ยว่า ถ้าไม่ได้ตัดผม คุณจะเป็นอย่างไร...? ถ้าไม่ทำผมสีนั้น สีนี้ ตามเทรนด์ ชั้นจะไปเจอหน้าเพื่อนที่มหา'ลัยได้ยังไง...? หรือดาราคนนั้น คนนี้ ทำสีผมสวยจัง ไปทำมั่งดีกว่า... นั่นแหละคือสาเหตุที่ทำให้อาชีพนี้ ยังอยู่ได้และไม่ต้องกลัวว่า จะไม่มีลูกค้า เพราะอย่างน้อยผู้ชาย 90 % ต้องตัดผมอย่างน้อยเดือนละครั้ง หรือสาว ๆ มีนัดวันพิเศษกับเพื่อนชาย ยังไงก็ต้องมาทำสวยไว้ก่อน...


     ประเด็นคือทำไม ร้านนี้คนเยอะ แต่อีกร้านคนน้อย หรือไม่มีเลย จนต้องปิดตัวลงทั้ง ๆ ที่ตั้งอยู่ในทำเลที่น่าจะหาลูกค้าได้ไม่ยาก ...? คำตอบมาจากประสบการณ์ตรงส่วนหนึ่งของตัวผมเองซึ่งจะกล่าวในหลาย ๆ เรื่อง หลายเหตุการณ์ ตลอดจนเทคนิค วิธีการต่าง ๆ ในเรื่องของผมและความสวยความงาม รวมถึงการแก้ปัญหาต่าง ๆ ซึ่งน่าจะเป็นประโยชน์กับทั้งผู้เยี่ยมชนที่เป็นช่างทำผมมือใหม่ มือเซียน หรือบุคคลทั่วไปผู้ใช้บริการ ร้านทำผม ตัดผม แล้วเกิดคำถามต่าง ๆ ในใจ ว่าทำไมมันเป็นอย่างงั้น อย่างงี้ ไม่ได้อย่างที่ต้องการ ทุกคำถามคำตอบที่น่าจะเอื้อประโยชน์แก่ทุก ๆ ท่าน ที่มีโอกาสเยี่ยมเยือนเข้ามายังบล็อกนี้