วันจันทร์ที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2556

เร่งผมยาว...ยาวได้จริงหรือ...?

เร่งผมยาว...ผมยาวเร็วขึ้นได้จริงหรือ...?



     ต้องขอกราบสวัสดีงาม ๆ ให้กับคุณผู้อ่านทุกท่านอย่างเป็นทางการสักครั้ง...!!!  หลังจากห่างหายไปนาน แห่ะ ๆ ... ต้องขออภัยหลาย ๆ ท่านที่ได้เข้ามาหาข้อมูลในนี้แล้วเห็นว่า เอ๊...?? เจ้าของบล็อกหายไปไหน ไม่ได้อัพเดทข้อมูลมา 2-3 เดือนแล้ว...? เลิกเขียนแล้ว...? ไม่ได้หายไปไหนหรอกน่า...แค่งานมันยุ่ง หลายเรื่องไม่ค่อยลงตัว ลูกค้าเยอะมั่ง อะไรมั่ง จนในที่สุดก็หาเวลาอันลงตัวมานำเสนอเรื่องราวดี ๆ สู่สายตาคุณผู้อ่านอีก เอ้า เข้าเรื่องกันเลยดีกว่าเนอะ...(แห่ะ ๆ รีบตัดบท...) หลาย ๆ ครั้งที่มีลูกค้าที่ร้านถามว่า "พีค๊ะ...ทำยังไงให้ผมยาวเร็ว...?" หรือ "พี่ค๊ะ...น้ำยาเร่งผมยาวยี่ห้อไหนใช้ดี เร่งผมยาวเร็ว ๆ มั่งค๊ะ...?"  อะไรทำนองนี้เป็นประจำ อันที่จริง ณ ปัจจุบันเทคโลยีก้าวไกล มีรีวิวจากคนนั้นคนนี้ มากมายตามอินเตอร์เน็ต ยี่ห้อนี้ดี ยี่ห้อนั้นไม่เวิร์ค ฯลฯ แต่ข้อเท็จจริง ที่ว่า เร่งผมยาว ได้จริงหรือไม่นั้น จะขอกล่าวตรง ๆ จากประสบการณ์ก็แล้วกัน



     เคยมีน้องนักศึกษาท่านนึงได้กล่าวว่า...เพื่อนที่มหาวิทยาลัย เค้าสระผมด้วยแชมพูยี่ห้อดัง(ไม่ขอเอ่ยชื่อนะ เดี๋ยวโดนฟ้อง...) ผสมกับยาคุมบดละเอียดทุกวัีน ผมยาวเร็วมากเลยอ่ะ ...เฮ้ย...ยาคุมเนี่ยนะ !!! จากนั้นน้องคนนั้นก็กระทำตามอย่างเพื่อน ด้วยวิธีการเดียวกันผ่านไปสักสองเดือนได้ผลหรือไม่ อันนี้ไม่เป็นที่ทราบแน่ชัด แต่คุณน้องคนเดิมก็มาบอกว่า เนี่ยเพื่อนที่มหาวิทยาลัย (อีกแล้ว...) เค้าใช้น้ำยาเร่งผมยาวยี่ห้อเนี้ย (ขวดเล็ก ๆ มีหลายสี ยี่ห้ออะไรไม่ขอบอก แต่หลายคนน่าจะรู้จัก) ผมยาวเร็วมากเลยอ่ะ ...เฮ้ย...จริงเหรอน้อง !!! จากนั้นน้องคนนั้นก็กระทำตามอย่างเพื่อน ด้วยวิธีการเดียวกัน ผ่านไปสักประมาณเดือนเดียว (ระยะเวลาสั้นลงกว่าเดิมนะนั่น...) คุณน้องคนเดิมมาอีกแล้วพร้อมกับวิธีการใหม่ ๆ ... เนี่ยเพื่อนที่มหาวิทยาลัย เค้าสระผมทุกวันเลยอ่ะ ผมยาว เร็วมากเลย... อืมม์ ก็ดีนะน้อง !!! ตกลงว่าเพื่อนคนนั้นที่น้องพูดถึง เค้าผมยาวเร็วกับอะไรกันแน่ พามาที่ร้านหน่อยดีกว่านะ ... 



     สักอาทิตย์ผ่านไปคุณน้องท่านนี้ก็มาที่ร้านพร้อมกับเพื่อนผมยาวสลวยผู้เป็นเสมือนไอด้อลทางด้านผมยาว จากที่ได้พูดคุยและดูลักษณะของเส้นผม พอจะสรุปได้ว่า...เพื่อนของน้องเค้าไม่เคยทำสีผม ไม่เคยยืด ไม่เคยดัด มีเส้นผมที่ตรงสวย มีน้ำหนักสุขภาพดี ผมแตกปลายไม่มีเลย เพราะตัดปลายผมออกเป็นประจำ แน่นอนว่า ที่เค้าใช้มาทั้งหมดทุกอย่างเป็นเรื่องจริง แต่...ต้องขอบอกเลยว่า ผมคนเรายาวโดยประมาณ 1-1.5 เซนติเมตร ต่อเดือน หรือเกือบ ๆ 1 นิ้ว อันนี้ก็แล้วแต่สุขภาพร่างกายของแต่ละบุคคล ถ้าจะบอกว่า สาเหตุที่แท้จริงที่เพื่อนของน้องเค้ามีผมที่ยาวเร็ว ก็ต้องเป็นเพราะ สุขภาพผมที่ดีทำให้ผมยาวเร็วได้เองตามธรรมชาตินั่นเองครับ ... อ้าว แล้วเซรั่ม สูตรนั้นสูตรนี้ ที่เค้าว่าใช้แล้วผมยาวล่ะ...? จากประสบการณ์ขออธิบายอย่างนี้นะ ว่า เซรั่มหรือแชมพูที่หลายคนได้ใช้ได้ผล หรือไม่ได้ผล สรุปง่าย ๆ เลยนะว่า ทั้งหมดทั้งมวลขึ้นอยู่กับการดูแลสุขภาพผมทั้งจากภายนอกแลภายใน หากคุณมีผมเสีย แห้ง แตกปลาย ขาดร่วงเป็นประจำ มันก็ยากที่ทำให้ผมยาวเร็วได้ เพราะยกตัวอย่างเช่น ผมยาวขึ้น 1 เซนติเมตร แต่ปลายผมขาดไป 1 เซนติเมตร ความยาวมันก็อยู่เท่าเดิมนั่นเอง ทำให้เราเกิดความรู้สึกว่า ผมยาวช้ามาก ในขณะที่ถ้าเรามีสุขภาพผมดี ไม่มีปลายผมขาดผมเสีย บวกกับเซรั่มบำรุงจากปัจจัยภายนอก และยังได้รับสารอาหารจำพวกโปรตีนอย่างครบถ้วนกับความต้องการในแต่ละวัน ผมก็ยาวตามธรรมชาตินั่นเอง ... 



     เอาเป็นว่า บทความนี้ไม่ขอฟันธงว่า ยี่ห้อไหนดี แต่ขอแนะนำอย่างตรงไปตรงมาว่า วิธีที่ดีที่สุดสำหรับการเร่งผมให้ยาวเร็ว ก็คือ การรักษาสุขภาพผมให้ดี นั่นเอง แล้วเชื่อได้เลยว่า ผมของคุณจะยาวสลวยสวยเก๋ ไม่แพ้เพื่อน ๆ ของคุณอย่างแน่นอน ฟันธงครับ...!!!
     

วันพุธที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2556

จริงหรือไม่...? ผมเสีย ผมแห้ง ผมแตกปลาย ลดลงได้ด้วยแชมพู TRESemme' ...!!

จริงหรือไม่...? ผมเสีย ผมแห้ง ผมแตกปลาย ลดลงได้ด้วยแชมพู TRESemme' ...!!


     หลังจากได้ดูโฆษณาแชมพู TRESemme' ชุดใหม่ TRESemme' Split Recovery (เทรซาเม่ สปลิท รีคัฟเวอรี่) ที่ว่ากันว่าไม่เพียงช่วยคืนสุขภาพดีให้กับเส้นผมเท่านั้น...ฮ๊า แต่ยังปกป้องการเกิดผมแตกปลาย...โอ้ว และสามารถผสานผมแตกปลายได้จริง...เฮ้ย เป็นเพราะมีนวัตกรรม Reconstructing Complex ที่ช่วยฟื้นบำรุงและปกป้องเส้นผมอย่างล้ำลึก  ให้ผมแตกปลายกลับมาผสานกัน หลังจากการใช้เพียง 3 ครั้ง  ผมที่เคยแตกปลายจะกลับมาเรียบสวยเงางามได้ถึง 88 %...อะไรมันจะขนาดนั้น...ในเมื่อเค้าการันตีมาซะขนาดนี้ มีหรือที่จะหักห้ามความอยากรู้อยากลองของคนได้...เลยตัดสินใจในบัดดล วิ่งแจ้นไปซื้อมาใช้ แล้วรีบนำมาบอกเล่าสู่กันฟังถึงผลลัพท์ที่ได้จาก การได้ลองใช้ แชมพู TRESemme' Split Recovery (เทรซาเม่ สปลิท รีคัฟเวอรี่) แล้วผมเสีย ผมแห้ง ผมแตกปลาย ลดลงจริงหรือไม่ ใช่หรือมั่ว ชัวร์หรือปล่าว...มาดูกัน

สภาพผมก่อนใช้ แชมพู TRESemme'
สภาพผมก่อนใช้ แชมพู TRESemme'
     ภาพด้านบนคือสภาพผมของนางแบบกิตติมศักดิ์ (คุณแม่ของลูกชายของข้าพเจ้าเอง...?) ซึ่งจะเห็นได้ว่าปลายผมมีปริมาณของผมแตกปลายค่อนข้างมากทีเดียว ภาพที่เห็นถ่ายจากกล้องโทรศัพท์ ไอโมบาย IQ6 โดยมิได้มีการใช้แอพใด ๆ ช่วยตกแต่งภาพทั้งสิ้น

สภาพผมหลังใช้ แชมพู TRESemme' ครั้งที่ 1
     มาดูกันครับ หลังจากที่ได้ใช้แชมพู แชมพู TRESemme' Split Recovery (เทรซาเม่ สปลิท รีคัฟเวอรี่) ครั้งแรก ตามด้วยการหมักด้วย ครีมนวด ที่ซื้อมาคู่กัน ทิ้งไว้ประมาณ 5 นาที แล้วล้างออก เป่าผมให้แห้งโดยมิได้มีการไดร์ผมตรงแต่อย่างใด จะเห็นว่า ผมแตกปลาย จากภาพข้างบนก่อนใช้และหลังใช้ มีความแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด และผมมีความนุ่มลื่น ดูมีน้ำหนักค่อนข้างดีทีเดียว เฮ้ย...!! มันจะดีขนาดนั้นเลยเหรอ...? คำถามนี้เกิดขึ้นมาในใจ แต่ต้องรอดูผลในครั้งต่อ ๆ ไป ถัดไปอีก 3 วัน เอ้า...อย่ารอช้า ไปดูกันต่อ...

สภาพผมหลังใช้ แชมพู TRESemme' ครั้งที่ 2
สภาพผมหลังใช้ แชมพู TRESemme' ครั้งที่ 2
สภาพผมหลังใช้ แชมพู TRESemme' ครั้งที่ 2
     จากครั้งแรก ผ่านไป 3 วัน สระผมอีกครั้ง เหมือนเดิมใช้กล้องจากโทรศัพท์เครื่องเดิม เป่าผมให้แห้งโดยไม่ต้องไดร์ผม สังเกตุดูผลลัพท์ที่ได้ โอ้ว...ดูเหมือนว่าผมแตกปลายลดลงอย่างเห็นได้ชัดมาก เริ่มคิดแล้วว่า นี่ดูจะไม่เกินเลยจากคำที่กล่าวในโฆษณาเลย ผมแตกปลายที่เป็นปัญหากวนใจ ใช้มาหลายแชมพู ก็ไม่เห็นจะได้เรื่องได้ราว ... ใจเย็น ๆ ต้องรอจนครบ 3 ครั้งก่อนสิ แล้วค่อยตัดสินใจ...

สภาพผมหลังใช้ แชมพู TRESemme' ครั้งที่ 3 
สภาพผมหลังใช้ แชมพู TRESemme' ครั้งที่ 3
     และนี่คือสภาพผมหลังจากใช้ครั้งที่ 3 โดยรวมถือว่าน่าพอใจเพราะดูแล้วผมแตกปลายลดลงจากภาพแรกก่อนใช้กับหลังใช้ค่อนข้างเห็นได้ชัด ไม่เกินเลยจากในโฆษณาที่ว่า ลดลงกว่า 80% หลังจากใช้ครบ 3 ครั้ง แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะหายหมดเกลี้ยง เพราะเมื่อผมแตกปลายแล้วละก็หนทางเดียวที่จะทำให้หายก็คือการตัดออกนั่นเอง และหลังจากตัดออกแล้วก้บำรุงรักษาอย่าให้เป็นเพิ่มอีก ซึ่งประสิทธิภาพของแชมพู TRESemme' Split Recovery (เทรซาเม่ สปลิท รีคัฟเวอรี่) ก็ให้ผลลัพท์เป็นที่น่าพอใจน่าคบหาเป็นอย่างยิ่ง สำหรับใครที่มองหาแชมพูที่ช่วยลดอาการผมแห้ง ผมเสีย ผมแตกปลาย ที่ไม่คุยโวโอ้อวดสรรพคุณเกินจริง ที่ว่าใช้แล้วผมแตกปลายจะหายไป ผมเสียจะฟื้นคืนสภาพ ฯลฯ ซึ่งหลาย ๆ ผลิตภัณฑ์ หลังจากได้ทดลองใช้แล้วผิดหวังกันไป เหลือไว้แค่กลิ่นหอมติดหัว บางยี่ห้อแถมรังแคมาให้เป็นที่ระลึกอีกต่างหาก...เอาเป็นว่า แชมพู TRESemme' Split Recovery (เทรซาเม่ สปลิท รีคัฟเวอรี่) ลองเก็บไปพิจารณาดูว่า คู่ควรแก่การบำรุงผมเสีย ผมแตกปลายของคุณหรือไม่ บทความนี้ไม่ได้เขียนเพื่อเชียร์หรือโฆษณาให้แก่ผลิตภัณฑ์ใด ๆ (ค่าโฆษณาก็ไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียนะ..แหะ ๆ ) เพียงแต่อยากบอกเล่าสู่กันฟัง อะไรใช้ดีเราก็นำมาบอกต่อ เพื่อเป็นประโยชน์แก่หลาย ๆ คนที่กำลังมองหาแชมพูดี ๆ ราคาไม่แพงไว้ใช้ แชมพู TRESemme' Split Recovery (เทรซาเม่ สปลิท รีคัฟเวอรี่) ก็น่าจะเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจครับ...

วันพฤหัสบดีที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2556

ผมเหม็น...ผมมีกลิ่นอับ...เกิดจากอะไรน๊า...?

ผมเหม็น...ผมมีกลิ่นอับ...เกิดจากอะไรน๊า...?




     เพิ่งสระผมเสร็จหมาด ๆ เอ๊ะ ทำไมรู้สึกเหมือนได้กลิ่นอับ ๆ จากอะไรสักอย่าง หลังจากหาสาเหตุอยู่พักใหญ่ ก็ได้รู้ถึงต้นตอของกลิ่นอับ ๆ ตายละวา...ผมเรานี่เอง ผมเหม็นจังทำไมผมถึงมีกลิ่นอับ ทั้ง ๆ ที่สระผมแล้วนี่นา เอ้า...ลองไปสระใหม่ แต่ก็ผมก็ยังมีกลิ่นอับอยู่ดี มันเกิดจากอะไร ทำไมกันเล่า อยู่ ๆ กลายเป็นคนผมเหม็น ผมมีกลิ่นอับ ได้อย่างไร ใครเป็นบ้างรีบมาหาคำตอบกันให้ด่วนจ้า...!!



     อ่านแล้วอย่าเพิ่งตกใจนะ แต่หากท่านมีอาการผมเหม็นหรือผมมีกลิ่นอับ สันนิษฐานว่าท่านอาจเป็น โรคผมเหม็น หรือ สเมลลี่ แฮร์ ซินโดรม (เอสเอชเอส) ซึ่งมันอาจเกิดขึ้นได้กับทุกเพศทุกวัย หรือใคร ๆ ก็เป็นกันได้ (ถึงได้บอกว่าอย่าเพิ่งตกใจงัย) เพียงแต่โรคนี้ไม่ได้เกิดขึ้นเพราะผมสกปรกเพียงอย่างเดียว แต่เกิดจากต่อมผลิตไขมันซึ่งติดกับรากผมแต่ละเส้นผลิตไขมันออกมามากเกินไป ทำให้ผมมันและดูดกลิ่นในอากาศเอาไว้ ผมจึงมีกลิ่นอับชื้นนั่นเอง และนอกจากนี้ ปัญหาไม่ได้เกิดจากแค่ต่อมไขมันเท่านั้น เพราะหนังศีรษะยังมีต่อมเหงื่อที่จะผลิตเหงื่อออกมาและก่อให้เกิดปัญหาผมเหม็นอับเหมือนกันซึ่งเป็นสิ่งที่ควบคุมได้ยาก 
   


     ในบางครั้งสภาพของเส้นผมก็เป็นสาเหตุให้ผมมีกลิ่นได้เช่นกัน ถ้าผมเส้นเล็กละเอียดจะเกิดปัญหาผมมันและมีกลิ่นมากกว่า ยิ่งถ้าได้ใช้ผลิตภัณฑ์จัดแต่งทรงผมชนิดต่าง ๆ ก็เหมือนใส่น้ำมันลงบนผม เพราะผมจะดูดกลิ่นมากขึ้นและทำให้กลิ่นติดบนเส้นผม หรือในบางรายก็อาจเกิกจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนแอนโดรเจน ซึ่งเกิดขึ้นได้ในช่วงที่เครียด ทำให้ต่อมไขมันผลิตไขมันออกมามากเกินไป  หรือกินอาหารที่มีกลิ่นฉุนเช่น เครื่องแกง หรือน้ำมันปลาก็ทำให้เกิดอาการผมมีกลิ่นเหม็นได้เหมือนกัน (อย่างนี้กินตามใจปากไม่ได้แล้วซินะ...)




     และในเมื่อมีอาการผมเหม็น หรือ ผมมีกลิ่นอับเกิดขึ้นกับตัวเรา วิธีแก้ไขซึ่งก็ไม่ได้ยากเย็นอะไรมากนัก เพียงแค่สระผมบ่อยๆ หรือในบางรายควรสระผม 2 ครั้งต่อวันในช่วงเช้าและเย็น ด้วยแชมพูชนิดอ่อนโยนเพื่อทำความสะอาดและไม่ทำร้ายผมหรือหนังศีรษะ เพราะถ้าแชมพูแรงเกินไปอาจทำให้หนังศีรษะแห้ง และมีการผลิตไขมันมากขึ้นไปอีก ซึ่งก็ทำให้ปัญหาร้ายแรงขึ้นไปอีก และห้ามใช้ครีมนวดผมบริเวณใกล้กับรากผม ที่สำคัญหลังสระผมหากฉีดสเปรย์หอมสำหรับผมก็จะช่วยพรางปัญหานี้ได้ แล้วอาการผมเหม็น ผมมีกลิ่นอับ ก็จะเบาบางลงไปได้เอง


     อ่อ...ฝากไว้อีกสักนิด หลายคนชอบสระผมตอนกลางคืนแล้วนอน โดยที่ผมยังเปียก ระวังอาการผมมีกลิ่นอับจะมาเยือนโดยไม่รู้ตัว ยิ่งบางคนผมยาวและหนามาก เป็นสาเหตุของอาการนี้อย่างไม่ต้องสงสัย ทางที่ดีควรเป่าให้แห้งก่อนแล้วค่อยนอนอย่างหมดกังวล และโดยเฉพาะเด็ก ๆ สาว ๆ ที่ได้รับโอกาสในการไว้ผมยาว(ระบบยกเลิกทรงผมนักเรียนหญิงนั่นเอง) บางคนก็ยังเด็กเกินกว่าที่จะดูแลความสะอาดให้กับเส้นผมของตัวเอง ดังนั้นผู้ปกครองก็ต้องให้ความดูแล ใกล้ชิดนิดนึงอย่าปล่อยให้อาการผมเหม็น ผมมีกลิ่นอับ เกิดกับลูกหลานของท่าน เดี๋ยวเพื่อน ๆ ที่โรงเรียนจะตีตนออกห่างเอาได้นะจ๊ะคุณหนู ๆ ...

วันจันทร์ที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

ตัดผมหน้าม้า...ตัดให้เข้ากับหน้า ตัดยังไงดีหนอ...?

ตัดผมหน้าม้า...ตัดให้เข้ากับหน้า ตัดยังไงดีหนอ...?


     อยากตัดผมหน้าม้าแต่กลัวไม่เข้ากับหน้า อยากตัดผมหน้าม้าแต่ไม่มั่นใจ อยากตัดผมหน้าม้าแต่ไม่รู้จะตัดอย่างไร เอ้าอยากรู้ก็ต้องมาหาคำตอบกัน เพราะการตัดผมหน้าม้าที่ดูเหมือนจะไม่ใช่เรื่องยาก แต่ที่จริงแล้วมันไม่ง่าย(เอ๊ะ...อ่านแล้วดูสับสน) หลายคนไม่มั่นใจกลัวนั่น กลัวนี่ กลัวเด๋อ...? (ไม่ใช่ กลัวพี่เด๋อ ดอกสะเดานะ ฮ่า ๆ ) ก่อนตัดสินใจลองอ่านจนจบบทความนี้ก่อน แล้วค่อยหาคำตอบให้กับตัวเองว่าจะตัดหรือไม่ตัดกันดีละหนอ ทรงผมหน้าม้า ฮี้ ๆ กับ ๆ ...(นั่นมันม้าร้องแล้ว จะตลกไปทำไม...?)


     จะตัดผมหน้าม้าทั้งที แต่ก็มีแต่เรื่องซีเรียส เหตุที่ต้องซีเรียส ก็เพราะหลายปัจจัยอย่างเช่น ตัดร้านไหนดีล่ะ...? อันนี้ถือเป็นประเด็นหลัก บางร้านตัดสวย บางร้านตัดแหว่ง ขึ้นอยู่กับประสบการณ์ช่างแต่ละคนอันนี้ก็ต้องเลือกให้ดีหน่อย อาจจะสอบถามจากเพื่อน ๆ คนรู้จักก่อน เพื่อความชัวร์เพราะเมื่อตัดแล้ว มันค่อนข้างแก้ไขยากหากไม่ถูกใจ เวลาส่องกระจกคงหงุดหงิดใจน่าดู กว่าจะยาวพอที่จะแก้ไขได้ และอีกหนึ่งปัจจัยที่หลาย ๆ คนกังวลเป็นอย่างยิ่งคือ ตัดผมหน้าม้าให้เข้ากับหน้า จะตัดแบบไหน อย่างไร ... โอ้ว..คิดแล้วกลุ้ม...ดังนั้นลองดูว่าหน้าม้าแบบไหนเหมาะกับรูปหน้า หน้าม้าแบบไหนถูกใจใครบ้าง


     ตัดผมหน้าม้าตรง อันนี้น่าจะเรียกได้ว่าเป็นทรงหน้าม้าแบบมาตรฐาน ซึ่งเป็นทรงที่เหมาะกับคนที่มีรูปหน้าเรียวยาว เนื่องจากหน้าม้าตรง ๆ แบบนี้ จะช่วยพรางรูปหน้ายาว ๆ ให้ดูสมส่วนมากขึ้น รูปหน้าดูสั้นลง แต่ก็ไม่เหมาะกับคนที่มีหน้ากลม ๆ เพราะจะทำให้ หน้าดูกลมแคบลงไปอีก โดยเฉพาะสาว ๆ หน้ากลมควรหลีกเลี่ยง


     ตัดผมหน้าม้าปัดข้าง ดูจะเป็นทางออกของสาว ๆ หน้ากลม หรือหน้ารูปเหลี่ยม เพราะการตัดหน้าม้าปัดข้าง จะช่วยปิดพื้นที่จากหน้าผากลงมาถึงโหนกแก้ม เป็นการพรางใบหน้ารูปเหลี่ยมหรือรูปกลมให้ดูหน้าเรียวเล็กลงทันตาเห็น โอ้ว...เท่านั้นยังไม่พอ (ไม่ได้ขายเครื่องออกกำลังกายนะ แหะ ๆ ) หากได้ลองสไลด์ผมไล่ระดับลงมาปิด บริเวณแก้มอีกละก็ สวยเซ็กซี่ ไม่แพ้สาวเกาหลี-ญี่ปุ่นในนิตยสารวัยรุ่นเลยทีเดียวเชียว ฟันธง...


     ตัดผมหน้าม้าเต่อ อินเทรนด์สไตล์แนว ๆ สาว ๆ หน้ารูปไข่ หรือหน้าผากกว้าง ลองได้ตัดแล้วจะติดใจไปกับหน้าม้าเต่อ ๆ แบบนี้ แต่ไม่ใช่ว่าสาว ๆ หน้าเหลี่ยม หน้ากลม จะตัดไม่ได้นะ อันนี้ต้องขอบอกว่า หน้าม้าเต่อ ๆ ตามสมัยนิยม (โดยเฉพาะจากภาพยนตร์ คุณยายโฮ) ต้องเน้นไปที่การแต่งตัวกับความมั่นใจเข้าไว้ อย่าไปแคร์สายตาใคร ลองถ้าได้ชอบบวกกับมั่นใจ ก็ตัดไปไม่ต้อง คิดมาก


     นอกจากเลือกผมหน้าม้าให้เหมาะกับรูปหน้าแล้ว ทรงผมเดิมที่มีอยู่ก็เป็นอีกปัจจัยที่ควรนำมาพิจารณาว่าจะตัดหน้าม้าหรือไม่ โดยเฉพาะสาว ๆ ที่ชอบดัดผมสไตล์เกาหลี ทำสีผมอ่อน ๆ ก็เหมาะที่จะตัดผมหน้าม้าอยู่แล้ว เพราะเปรียบเสมือนเป็นของคู่กันที่ขาดไม่ได้ ผมดัดตัดหน้าม้า 


     ไม่ใช่ว่าผมหน้าม้าจะตัดได้เฉพาะสาว ๆ นะ หนุ่ม ๆ ทั้งหลายก็มีทรงผมหน้าม้าให้เลือกตัดได้เช่นกัน แต่เพราะผู้ชายส่วนใหญ่ตัดผมสั้น จึงไม่จำเป็นว่าจะเลือกแต่เพียงหน้าม้าที่เหมาะกับรูปหน้า เอาเป็นว่าหนุ่ม ๆ ทั้งหลาย เลือกให้เหมาะกับทรงผม เหมาะกับวัย และการแต่งกายไลฟ์สไตล์ของคุณเป็นอันใช้ได้


     ทีนี้หวังว่า ไม่ว่าสาว ๆ หรือ หนุ่ม ๆ ก็คงตัดสินใจได้แล้วว่า ใครจะเหมาะกับทรงผมหน้าม้า แบบไหน ขอให้เลือกให้ถูกใจ หล่อสวยกันถ้วนหน้า กับทรงผมหน้าม้ากันได้เลย...(ตัดเสร็จแล้วอย่าลืมแอ๊คท่า โพสต์รูปออกสื่อ โซเชียล ทั้งหลายด้วยนะ เดี๋ยวตกเทรนด์)
      

วันศุกร์ที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

ผมร่วง...ผมร่วง ช่วยผมด้วย !!

ผมร่วง...ผมร่วง ช่วยผมด้วย !!



     พูดถึงเรื่องผมร่วง ทำให้นึกถึงโฆษณา แชมพูแก้ปัญหาผมร่วงยี่ห้อหนึ่งเมื่อสิบกว่าปีที่แล้ว (แก่ไปมั้ย..?) ที่มีคำพูดฮิตติดปากว่า...ผมไม่ร่วงหรอก ผมไม่ร่วง...!!! ผ่านมาจนปัจจุบัน ปัญหาผมร่วงก็ยังเป็นสิ่งรบกวนใจของใครหลาย ๆ คน เวลาหวีปุ๊ป ร่วงปั๊บ สระผมทีไรใจหายแว๊บ เห็นผมร่วงไหลไปตามสายน้ำแล้วอยากจะร้องไห้ อะไรมันจะเยอะขนาดนี้ คิดแล้วยิ่งเครียดหนัก ก็ยิ่งผมร่วงหนักเข้าไปอีก ชั้นจะหัวล้านมั้ย...? เอ้าอย่าเพิ่งตีตนไปก่อนไข้ ค่อย ๆ แก้ไขกันไปเป็นจุด ๆ ไป


     สิ่งแรกที่ทุกคนควรรู้เกี่ยวกับผมร่วง คือ โดยปกติแล้วทุก ๆ คน จะมีผมร่วงในแต่ละวันอยู่แล้วประมาณ 100-150 เส้นโดยประมาณ (ประมาณเอานะ อาจมากกว่านี้หรือน้อยกว่านี้นิดหน่อย อย่าซีเรียสถึงขนาดหยิบมานั่งนับทีละเส้นล่ะ...) ซึ่งถือว่าไม่จัดอยู่ในอาการผมร่วงจนต้องเข้ารับการรักษาเพราะฉะนั้นถ้าผมร่วงประมาณนี้ก็ไม่ต้องวิตกกังวล แต่ถ้าจะวิเคราะห์ถึงสาเหตุของอาการผมร่วง อย่างแรกคือ ยีนหรือกรรมพันธุ์ จากคนในครอบครัวอันนี้ก็ถือว่าหลีกเลี่ยงยากแต่ก็ไม่ได้หมายความว่า ถ้าคนในครอบครัวผมร่วงหรือหัวล้านแล้วคุณจะต้องเป็นด้วยเสมอไป ต่อมาคืออาจเกิดจากความผิดปกติทางฮอร์โมน ซึ่งอาจเกิดขึ้นได้ทั้งชายและหญิงกรณีนี้ต้องไปรับการตรวจและวิเคราะห์จากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น ถึงจะรู้ว่าอาการผมร่วงของคุณมาจากความไม่สมดุลย์ทางฮอร์โมนโดยเฉพาะสตรีที่เพิ่งคลอดบุตรบางรายก็มีอาการผมร่วงให้เห็นอยู่บ่อยครั้ง หรือในบางกรณีผมร่วงก็อาจเกิดจากความเครียดและความวิตกกังวลบางอย่างของตัวคุณเองก็อาจเป็นได้



     การรับประทานอาหารที่ไม่เพียงพอกับความต้องการของร่างกาย ก็เป็นอีกสาเหตุนึงที่อาจทำให้คุณมีอาการผมร่วงได้เช่นกัน โดยเฉพาะอาหารประเภทโปรตีน วิตามินบี ธาติเหล็ก โฟลิคแอซิด หรือแร่ธาตุอื่น ๆ ที่เป็นส่วนประกอบของสารอาหารที่จะไปบำรุงเส้นผมและรากผม ซึ่งก็จะขอแนะนำเมนูอาหารบางประเภท ที่จะช่วยเพิ่ม สารอาหารในการบำรุงสุขภาพผมซึ่งก็ได้แก่ ปลาแซลมอน ปลาทูน่า สาหร่ายทะเล กล้วยหอม แครอท ฟักทอง งาดำ ข้าวกล้อง ถั่วเหลือง เมล็ดทานตะวันเป็นต้น(ขอบคุณข้อมูลจากhttp://www.oknation.net/blog/kritwat/2011/02/13/entry-3)


     นอกจากนี้ ผมร่วง ก็ยังอาจมีสาเหตจากโรคบางอย่างซึ่งอาจมีผล กับเส้นผมของคุณ หรือการเป็นโรคที่เกี่ยวกับผิวหนังหรือหนังศรีษะซึ่งก่อให้เกิดรังแคและผมร่วงตามมา แม้กระทั้งการได้สัมผัสกับสารเคมีบางอย่าง ก็มีผลทำให้ผมร่วงได้ โดยเฉพาะคนที่ทำงานเกี่ยวกับรังสี ต่าง ๆ ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการทำให้ผมร่วงได้เป็นอย่างดี แต่บางครั้งเราก็มัวแต่มองสิ่งที่ใกลตัวเกินไปมองข้ามสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดผมร่วงได้เช่นกัน คือ แชมพูสระผม ที่เราใช้อยู่ ในบางยี่ห้อที่มีความเข้มข้นของส่วนผสมบางตัวอันเป็นสาเหตุของอาการแพ้ คัน หรือเป็นรังแคและผมร่วงได้


     ในบางรายทีจำเป็นต้องทานยาบางอย่างอยู่เป็นประจำ และตัวยานั้นอาจส่งผลข้างเคียงทำให้ผมร่วงนั่นคือสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่สำหรับคนที่มีอาการผมร่วงมาก ๆ อาจเกิดจากสาเหตุใด ๆ ก็ตามไม่ว่าจะที่กล่าวมาแล้วหรือไม่ก็ตาม การสังเกตตัวเอง และการเริ่มต้นปรับปรุงกระบวนการในการทานอาหารให้ครบกับความต้องการ ในแต่ละวันถือเป็น การเริ่มต้นที่ดีที่สุดของการรักษาอาการผมร่วง และเมื่อไรที่รู้สึกว่าการเฝ้าสังเกตอาการผมร่วง และวิเคราะห์สาเหตุต่าง ๆ แก้ไขด้วยตัวเองไม่ว่าจะทานอาหารที่มีประโยชน์ หรือการเปลี่ยนแชมพู และหลีกเลี่ยงสาเหตุต่าง ๆ ที่ได้กล่าวมาแล้ว แต่อาการผมร่วงก็ยังมีอยู่หรือร่วงมากขึ้นจนผิดปกติ ทางเลือกที่ดีที่สุดคือการเข้ารับการรักษาโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ หรือสถาบันเส้นผมโดยตรง อย่าปล่อยให้อาการผมร่วงสร้างความวิตกกังวลจนไม่เป็นอันกินอันนอน จนสุดท้ายไม่เหลือผมให้ร่วงแล้วจะมานั่งเสียใจภายหลังไม่ได้นะจะบอกให้...รักผม ก็ต้องช่วยผม ด้วยการดูแลผม

วันอังคารที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

อบผม อบไอน้ำ อบทำไม...?

อบผม อบไอน้ำ อบทำไม...?


     เวลาที่รู้สึกว่าผมเสีย ผมแห้ง ผมแตกปลาย สิ่งแรกที่หลาย ๆ คนจะนึกถึงก่อนเป็นอันดับต้น ๆ ในการดูแลรักษาผมให้ดูสุขภาพดีขึ้นคือ...การอบผมด้วยเครื่องอบไอน้ำ แต่ทำไมล่ะ...? ไอน้ำจะช่วยให้ผมที่เสียดีขึ้นหรือ...? แล้วทรีทเม้นต์ล่ะ...? หรือต้องใช้คู่กันหรือปล่าว ถ้าไม่อบผมด้วยเครื่องอบไอน้ำ ผมจะไม่หายแห้งเสีย จริงหรือไม่...? น่าจะมีใครหลาย ๆ คนสงสัย เลยหยิบเรื่องราวนี้มาไขข้อข้องใจให้หายสงสัยกัน


     ทำไมต้องอบไอน้ำ...? อันนี้หลายคนน่าจะสงสัย เวลาเข้าร้านเสริมสวย แล้วถามช่างว่าผมเสียจะแก้ไขยังไง ช่าง(ส่วนใหญ่)ก็จะบอกให้อบไอน้ำ สูตรนั้น สูตรนี้แล้วแต่ผลิตภัณฑ์ร้านใครร้านมัน โดยที่ไม่เคยบอกสาเหตุว่า อบผม ทำไม?  เอาเป็นว่า เริ่มต้นที่ผมก่อน(เส้นผม) ผมของคนเราปกติแล้วจะมีเกล็ดผม อยู่ชั้นนอกสุด ถ้าเราต้องการทำอะไรสักอย่างที่เป็นสารเคมีเกี่ยวกับเส้นผม เป็นต้นว่า ยืด ดัด ทำสี หรือการบำรุงด้วยทรีทเม้นต์ ครีมนวดผม ต่าง ๆ เราต้องทำการเปิดเกล็ดผมก่อน เพื่อให้สีหรือน้ำยา สารบำรุงต่าง ๆ เข้าสู่เส้นผมถึงชั้นในสุด การเปิดเกล็ดผมด้วยวิธีง่ายที่สุด คือการสระผมนั่นเอง จะเห็นว่าทุกครั้งก่อนกระบวนการทำทุกอย่างเกี่ยวกับเส้นผมจะเริ่มจาก การสระผมเป็นส่วนใหญ่ หรือในบางผลิตภัณฑ์ที่เป็นแชมพูสระผมสามารถเปิดเกล็ดผมได้มากกว่าการใช้แชมพูสระผมทั่วไป แต่ในกรณีที่ผมแห้งเสียมาก เกล็ดผมส่วนใหญ่จะเปิดอยู่แล้ว (เกล็ดผมเปิดหรือไม่สังเกตจากเส้นผม ซึ่งจะพันกันหวีไม่ลื่นนั่นเอง เหมือนเวลาสระผมแล้วไม่ใส่ครีมนวด) และอีกวิธีที่จะทำให้เกล็ดผมเปิดก็คือการใช้ความร้อน ซึ่งก็คือการที่เราอบผม ด้วยเครื่องอบไอน้ำนั่นเอง หลังจากนั้นเกล็ดผมจะปิดได้เองด้วยการใช้ทรีทเม้นต์



     ด้วยเทคโนโลยีในยุคแรก ๆ การที่จะสร้างเครื่องมือที่จะให้ความร้อนบนศรีษะคนโดยที่ไม่เป็นอันตราย เครื่องอบไอน้ำจึงเป็นตัวต้นแบบ ที่จะทำให้เกล็ดผมเปิดด้วยการใช้ความร้อน แต่จากการพัฒนาเทคโนโลยีตามยุคสมัย ก็เกิดเครื่องมือต่าง ๆ ซึ่งให้ความร้อน โดยที่ไม่ต้องใช้ไอน้ำ ซึ่งก็ให้ผลลัพท์ที่คล้ายคลึงกันในการเปิดเกล็ดผม จากการอบไอน้ำก็เปลี่ยนเป็นการทำทรีทเม้นต์ อบทรีทเม้นต์ ฯลฯ แล้วแต่การตั้งชื่อของแต่ละร้าน เป็นการเปิดมุมมองใหม่ ๆ ให้ทางเลือกในการตัดสินใจแก่ลูกค้า


     ไม่ว่าจะเป็นวิธีใด ๆ ที่จะให้ความร้อนในการเปิดเกล็ดผม ทั้งการอบไอน้ำ เครื่องให้ความร้อน เครื่องอินฟาเรด ฯลฯ (ปัจจุบันมีให้เลือกมากมายหลายรูปแบบ บางเครื่องทำได้ทุกอย่าง All in One) ทุกวิธีก็มีจุดหมายปลายทางที่เส้นผมของเรานั่นเอง เพื่อเป็นตัวช่วยในการเปิดทางสู่กิจกรรมต่าง ๆ เกี่ยวกับเส้นผม     หรือพูดง่าย ๆ เพื่อความสวยนั่นเอง เพราะความสวยไม่มีที่สิ้นสุด...

วันจันทร์ที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2556

ยืดผม...โคนผมหัก ทำยังไงล่ะทีนี้

ยืดผม...โคนผมหัก ทำยังไงล่ะทีนี้




     เป็นธรรมดาของหญิงสาว ที่ต้องการความสวยไม่มีที่สิ้นสุด ผมตรงก็อยากดัดให้สวยพริ้วเป็นสาวเกาหลี ส่วนผมหยิกก็อยากยืดให้ตรงเพื่อง่ายแก่การดูแลจัดทรง แต่ไอ้ตอนยืดให้ตรงนี้แหละหนา ที่เป็นปัญหาอันน่าเศร้าผมเราแทนที่จะสวยตรงเป็นธรรมชาติ กลับได้ผมลีบแบน ติดหนังหัว(แรก ๆ เข้าใจว่ามันตรงมาก) ผ่านไปซักเดือนเริ่มเห็นความแปลกแตกต่างแบบไม่เหมือนใคร ก็ใครจะเหมือนล่ะ ผมงอกใหม่ขึ้นมาเป็นเหลี่ยมซะขนาดนั้น และเริ่มมีผมขาดผมชี้ตามมาเรื่อย ๆ นี่มันอะไรกัน ผมเราเป็นอะไร...ช่วยด้วย...!!!


     ปัญหา ยืดผม แล้วโคนผมหัก ถือเป็นปัญหาที่พบเจอบ่อย ซึ่งจากประสบการณ์(ส่วนตัวนะ) พอจะวิเคราะห์สาเหตุได้ว่ามาจากฝีมือช่าง ล้วน ๆ ตรงประเด็น ไม่ได้เกิดจากน้ำยาไม่ดีหรือผมเสียมาก่อนแต่อย่างใด ไม่ต้องโทษใครโทษช่างเต็ม ๆ(หรืออาจโทษตัวเราเองที่โชคร้ายไปเจอช่างมือใหม่ทำไม่เป็นก็ได้ แหะ ๆ ) แล้วทำไมถึงโคนหักก็เพราะว่า ขั้นตอนการลงน้ำยาที่ผิดวิธีด้วยการลงน้ำยายืดผมและน้ำยาโกรกผมติดชิดโคนผมหรือหนังศรีษะมากไป(ปกติต้องเว้นห่างจากโคนผมหรือหนังศรีษะประมาณ 1 เซนติเมตร เป็นอย่างน้อย) กับการหักโคนผมตอนที่กำลังรีดผมต่ำมากเกินไป (ปกติต้องยกโคนผมขนานกับศรีษะ 90 องศารอบหัว) ทั้งสองวิธีนี้จะทำให้ผมที่ได้จากการยืดลีบแบนไม่เป็นธรรมชาติ แบนจนติดหนังศรีษะเลยทีเดียว ตอนแรกอาจคิดว่ามันคงจะตรงมาก แต่ผ่านไปสักประมาณหนึ่งเดือนจะเริ่มเห็นผมที่งอกขึ้นมาใหม่หักงอเป็นเหลี่ยม และผมเริ่มขาดออกจากกันไปทีละน้อย ตามความอ่อนแอของเส้นผม กว่าจะรู้ตัวเวลาก็ผ่านไปเป็นเดือนแล้ว จะไปเรียกร้องจากทางร้านก็มักจะเจอแต่คำบ่ายเบี่ยง


     ไม่ต้องตกใจสำหรับใครหลาย ๆ คนที่เจอกับปัญหาโคนผมหักจากการยืดผม ทุกปัญหามีทางออกเสมอและวิธีแก้ไขคือ การรอ รอ รอ และรอ ... รออะไร..?? ก็รอเวลาให้โคนผมยาวได้ระดับพอที่จะยืดผมใหม่ในครั้งต่อไปยังไงล่ะ แล้วผมหักก็จะหายไป แต่...ต้องเลือกร้านที่เป็นผูชำนาญงานจริง ๆ นะ ไม่งั้นก็จะเป็นเหมือนเดิม(หวังว่าคงไม่กลับไปร้านเดิมนะ แหะ ๆ ) แถมอาจทำให้ผมเดิมที่หักกลายเป็นผมขาดเป็นหย่อม ๆ หากทิ้งเวลาไว้นานเกิน และที่สำคัญการบำรุงผมด้วยทรีทเม้นต์ชนิดเข้มข้นก็เป็นสิ่งขาดไม่ได้และต้องทำเป็นประจำสม่ำเสมอทั้งก่อนยืดและหลังยืดทุกกรณี 


     หากคุณเป็นช่างและรู้ว่าเคยเกิดปัญหานี้กับลูกค้าของคุณ ก็ควรรีบแก้ไขตรงจุดนี้อย่างเร่งด่วนก่อนที่ลูกค้าจะหดหายไป เรื่อย ๆ จนต้องปิดตัวลงในที่สุด ประสบการณ์เป็นสิ่งสำคัญ และการเรียนรู้เพิ่มเติมอยู่ตลอดเวลาก็เป็นสิ่งสำคัญที่ห้ามละเลยเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะตัวผลิตภัณฑ์ที่เราใช้อยู่เราก็ต้องเรียนรู้เทคนิคเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยจากการเข้าอบรมกับผลิตภัณฑ์นั้น ๆ อยู่เป็นประจำ เพื่อคุณลูกค้าได้ผมตรงสวย คุณเจ้าของร้านก็เกิดรายได้ แฮปปี้กันทั้งสองฝ่ายจ้า

วันอาทิตย์ที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2556

ผมไม่เป็นทรง...ทำไมหนอทำไม ?

ผมไม่เป็นทรง...ทำไมหนอทำไม ?



     หลาย ๆ ครั้งและหลาย ๆ คนที่เดินไปหาร้านทำผม ในสภาพผมยุ่งเหยิงแล้วเดินเข้าไปบอกช่างว่า "ผมไม่เป็นทรงเลยพี่..." เป็นอีกหนึ่งคำถามที่พบเจอบ่อย แต่บางคนก็ไม่เคยพบกับปัญหาผมไม่เป็นทรงเลย เขาเป็นคนโชคดีอย่างนั้นเหรอ ที่เกิดมาผมสวย..? ไม่หรอกมันไม่เป็นอย่างนั้นทุกอย่างมันต้องมีที่มาที่ไป


     จากประสบการณ์ตรง(ส่วนตัวนะ) พอจะวิเคราะห์สาเหตุของปัญหาผมไม่เป็นทรงได้จาก 3 กรณีใหญ่ ๆ คือ อย่างแรกเลยคุณอาจไปตัดผมที่ร้านใดร้านหนึ่งแล้วเจอช่างที่อ่อนประสบการณ์หรือเรียกว่าเป็นช่างมือใหม่แต่ไฟแรง เลยคาดไม่ถึงผลที่จะตามมา อาจใช้ใบมีดโกนสไลด์ผม หรืออุปกรณ์กรรไกรที่ไม่ได้มาตรฐานก็จะทำให้ผมเกิดการเด้งชี้ฟูได้ ประการที่สองอาจเกิดจาก สภาพเส้นผมของคุณเองอย่างเช่นเป็นคนที่ผมเส้นเล็กชี้ฟู การตัดผมสไลด์ไล่ระดับมากเกินไปก็ทำให้ปลายผมชี้ฟูไม่อยู่ทรง (แต่ในบางคนที่ผมตรงมีน้ำหนักอยู่แล้ว ไม่ว่าจะทำทรงอะไรก็ดูดีไปหมดอ่ะนะ) ส่วนประการที่สาม ที่เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ผมดูแล้วไม่เป็นทรงเอาซะเลย คือการขาดการดูแลด้วยตัวของคุณเอง บางท่านบอกว่าผมไม่เป็นทรงเลย แต่พอไดร์ผมจัดทรงซักนิด อ้าว...ผมก็ยังดูดี ยังดูเข้าทรงอยู่เลย อันนี้แหละที่เจอบ่อย


     ไม่ว่าจะตัดผมทรงไหน ทรงอะไรก็ตามทั้งชายและหญิง เมื่อท่านได้ทรงผมที่ต้องการแล้ว ก็ควรที่จะเรียนรู้เรื่องการเซ็ทผม จัดแต่งทรงด้วยตัวเองให้ดูเข้าที่เข้าทาง ไม่ใช่ว่าวั้นนี้ออกจากร้านทำผมดูดีมีสไตล์ แต่กลับไปบ้านนอนตื่นเช้าขึ้นมา ผมยุ่งชี้ฟูอยู่ยังไง ก็ออกมาจากบ้านทั้งอย่างงั้น แล้วจะมาบอกว่าผมดูไม่เป็นทรงเลยมันก็ไม่ถูกต้อง บางคนไม่มีเวลา อย่างมากก็ผูกผมมัดผมรวบตึงอยู่ทั้งวัน ผมก็จะเป็นรอยมัดอยู่ตลอด พอแกะยางรัดผมออก ก็ดูไม่ออกว่าผมเป็นทรงไหน(เชื่อว่าหลายคนคงเป็น) ยิ่งปัจจุบัน เด็ก ๆ ได้ไว้ผมยาวตามนโยบายรัฐบาล ยกเลิกทรงผมนักเรียน แต่ด้วยวัยที่ยังไม่รู้ที่จะรักสวยรักงามรักหล่อ ก็ได้แต่ไว้ยาวโดยขาดการดูแล (หลัง ๆ นี้มีผู้ปกครอง พาเด็กหญิงผมยาว ๆ มาแต่งผมบ่อยขึ้นมาก) ขอแนะนำว่าผู้ปกครองก็ควรให้การดูแลให้คำแนะนำตามสมควร เพื่อให้ลูก ๆ หลาน ๆ ไม่ปล่อยให้ผมชี้ฟูดูรุงรัง


     ท่านที่อยู่ในวัยที่จะดูแลความสวยหล่อให้ตัวเองก็ควรที่จะหมั่นจัดแต่งทรงผมให้ดูเป็นรูปเป็นร่าง สาว ๆ ผมยาวอาจจะไดร์ผมให้อยู่ทรง หรือหนีบ ม้วนลอน เองที่บ้าน หรือไปทำที่ร้านบ้างแต่งปลายผมกำจัดผมเสียผมแตกปลาย เพื่อให้ทรงผมดูดีอยู่เสมอ คุณผู้ชาย ก็ควรจะมีอุปกรณ์ น้ำมันเซ็ทจัดแต่ง แว็กซ์ เจล ต่าง ๆ พร้อมที่จะเพิ่มความหล่อเท่ห์ อยู่เป็นประจำ ก่อนออกจากบ้านส่องกระจกเช็คตัวเองสักนิด ถ้าผมยังยุ่งเหยิง ก็จัดแต่งให้เข้าที่เข้าทาง หากมันยาวมากเกินก็หาโอกาสไปยังร้านประจำ ตัดแต่งทรงให้เข้ารูปอยู่เสมอ ปัญหาผมไม่เป็นทรง ก็จะไม่เป็นปัญหาอีกต่อไป

วันศุกร์ที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

ผมมัน...ทำยังไงให้หายมัน

ผมมัน...ทำยังไงให้หายมัน


     สระ ๆ ๆ สระผมทุกวัน ไม่ได้ขยันหรอกแต่มันจำเป็นทำไมน่ะเหรอ?  ก็เพราะว่าผมมัน...หมายถึงว่าเส้นผมน่ะมันเยิ้มทุกวันไม่สระไม่ได้เลยขาดความมั่นใจ ลองแล้วทุกอย่างทุกแชมพู สูตรนั้น สูตรนี้ แพงไม่ว่าขอให้ผมหายมัน แต่ก็ไมเป็นผลแถมผมร่วงตามมาอีกตะหาก คิดแล้วยิ่งเครียดหนัก


     สาเหตุที่ทำให้ผมมันคือการที่ต่อมไขมันผลิตน้ำมันออกมาในปริมาณที่มากเกินไป อาจเกิดจากหนังศรีษะแห้ง(ไอ้ที่มันแห้งส่วนหนึ่งก็มาจากการสระผมบ่อยเกินไปนะ) หรือแชมพูและครีมนวดที่มีความเข้มข้นสูง บางทีการล้างออกอาจไม่หมดเกลี้ยงโดยเฉพาะคนที่ผมยาวและหนามาก ๆ ก็จะเกิดการสะสมและตกค้างอยู่บนหนังศรีษะความมันก็ย่อมต้องเกิดขึ้น บางรายก็ใส่น้ำมันจัดแต่งทรงผมทุกวันก็ทำให้ผมมันได้เช่นกัน นอกจากนี้ก็ยังมีบางคนที่เป็นเพราะมีคนในครอบครัวอย่างพ่อแม่ก็ผมมัน ลูกก็ต้องผมมันตามอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้เพราะสาเหตุอันมาจากกรรมพันธุ์ของตัวเองอันนี้ก็แย่หน่อย


     จากการทดลองด้วยตัวเองบ้าง จากข้อมูลต่าง ๆ ทางอินเตอร์เน็ตบ้าง พอจะหาวิธีช่วยให้คนที่ผมมัน พอจะมีทางเลือกสู่แสงสว่างขึ้นมาบ้าง(แหมดูเว่อร์ ๆ เนอะ) บางท่านแนะนำว่าให้ลองใช้แชมพูเด็กสระผมแล้วไม่ต้องใส่ครีมนวดใด ๆ ทั้งสิ้น ก็ลองแล้วได้ผลในระดับนึงแต่บางคนนอกจากจะผมมันแล้วยังผมเสียอีก ถ้าไม่ใส่ครีมนวด หมักทรีทเม้นต์บำรุงก็ไม่ไหว แชมพูเด็กก็คือแชมพูเด็ก ไม่มีสารบำรุงมากพอต่อการดูแลเส้นผมที่เสียมาก ๆ ก็ต้องหันไปพึ่งแชมพูผู้ใหญ่...หมายถึงแชมพูเฉพาะที่เป็นสูตรสำหรับคนผมมันนั่นเอง แชมพูประเภทนี้จะมีค่า ph ที่ 5.5 - 6.5 ดูเหมาะกับสภาพผมมันที่สุดแล้ว หากต้องการใส่ทรีทเม้นต์ ก็ควรใส่แค่ตรงบริเวณส่วนปลายผม เพื่อลดความมันที่จะสะสมบนหนังศรีษะให้น้อยลง แต่หากยังไม่หาย ก็ขอแนะนำวิธีแบบธรรมชาติ  ๆ ดูบ้าง ลองเดินเข้าไปในครัวมองหามะนาวสัก 1 ลูก กับน้ำส้มสายชูสัก 1 ช้อนโต๊ะ  ผสมกับน้ำในปริมาณพอที่จะล้างผมจากการสระ แล้วก็ทำการสระตามปกติ แล้วนำน้ำที่เราผสมไว้ มาล้างผมในน้ำสุดท้ายของการสระผม ก็จะช่วยลดความมันได้เช่นกัน


     นอกเหนือจากที่ได้กล่าวมา ก็ยังมีอีกวิธีที่จะช่วยลดความมันบนหนังศรีษะ(วิธีสุดท้ายแล้วนะ) คือการหมักผมด้วยว่านหางจระเข้ผสมมะนาว ด้วยการนำว่านหางจระเข้มาปลอกเอาส่วนที่เป็นวุ้นปริมาณเอาแค่พอที่จะใช้หมักพอนะ ผมสั้นผมยาวก็ประมาณดู นำมาบดให้ละเอียดผสมกับน้ำมะนาว 1 ลูก เสร็จแล้วก็นำมาหมักและนวดบนศรีษะและเส้นผม ทิ้งไว้สัก 5 นาที แล้วจึงล้างออกด้วยแชมพูและครีมนวด(ตามปกติ) แล้วจะเห็นว่าความมันจากที่เคยมันเยิ้มจะลดลงได้ แล้วปัญหาผมมันที่เคยกวนใจ ก็จะเบาบางลงไป ส่วนใครจะใช้วิธีไหนก็แล้วแต่ความต้องการของแต่ละบุคคล จะได้หมดกังวลเรื่องผมมันกันซะที