สระ ๆ ๆ สระผมทุกวัน ไม่ได้ขยันหรอกแต่มันจำเป็นทำไมน่ะเหรอ? ก็เพราะว่าผมมัน...หมายถึงว่าเส้นผมน่ะมันเยิ้มทุกวันไม่สระไม่ได้เลยขาดความมั่นใจ ลองแล้วทุกอย่างทุกแชมพู สูตรนั้น สูตรนี้ แพงไม่ว่าขอให้ผมหายมัน แต่ก็ไมเป็นผลแถมผมร่วงตามมาอีกตะหาก คิดแล้วยิ่งเครียดหนัก
สาเหตุที่ทำให้ผมมันคือการที่ต่อมไขมันผลิตน้ำมันออกมาในปริมาณที่มากเกินไป อาจเกิดจากหนังศรีษะแห้ง(ไอ้ที่มันแห้งส่วนหนึ่งก็มาจากการสระผมบ่อยเกินไปนะ) หรือแชมพูและครีมนวดที่มีความเข้มข้นสูง บางทีการล้างออกอาจไม่หมดเกลี้ยงโดยเฉพาะคนที่ผมยาวและหนามาก ๆ ก็จะเกิดการสะสมและตกค้างอยู่บนหนังศรีษะความมันก็ย่อมต้องเกิดขึ้น บางรายก็ใส่น้ำมันจัดแต่งทรงผมทุกวันก็ทำให้ผมมันได้เช่นกัน นอกจากนี้ก็ยังมีบางคนที่เป็นเพราะมีคนในครอบครัวอย่างพ่อแม่ก็ผมมัน ลูกก็ต้องผมมันตามอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้เพราะสาเหตุอันมาจากกรรมพันธุ์ของตัวเองอันนี้ก็แย่หน่อย
จากการทดลองด้วยตัวเองบ้าง จากข้อมูลต่าง ๆ ทางอินเตอร์เน็ตบ้าง พอจะหาวิธีช่วยให้คนที่ผมมัน พอจะมีทางเลือกสู่แสงสว่างขึ้นมาบ้าง(แหมดูเว่อร์ ๆ เนอะ) บางท่านแนะนำว่าให้ลองใช้แชมพูเด็กสระผมแล้วไม่ต้องใส่ครีมนวดใด ๆ ทั้งสิ้น ก็ลองแล้วได้ผลในระดับนึงแต่บางคนนอกจากจะผมมันแล้วยังผมเสียอีก ถ้าไม่ใส่ครีมนวด หมักทรีทเม้นต์บำรุงก็ไม่ไหว แชมพูเด็กก็คือแชมพูเด็ก ไม่มีสารบำรุงมากพอต่อการดูแลเส้นผมที่เสียมาก ๆ ก็ต้องหันไปพึ่งแชมพูผู้ใหญ่...หมายถึงแชมพูเฉพาะที่เป็นสูตรสำหรับคนผมมันนั่นเอง แชมพูประเภทนี้จะมีค่า ph ที่ 5.5 - 6.5 ดูเหมาะกับสภาพผมมันที่สุดแล้ว หากต้องการใส่ทรีทเม้นต์ ก็ควรใส่แค่ตรงบริเวณส่วนปลายผม เพื่อลดความมันที่จะสะสมบนหนังศรีษะให้น้อยลง แต่หากยังไม่หาย ก็ขอแนะนำวิธีแบบธรรมชาติ ๆ ดูบ้าง ลองเดินเข้าไปในครัวมองหามะนาวสัก 1 ลูก กับน้ำส้มสายชูสัก 1 ช้อนโต๊ะ ผสมกับน้ำในปริมาณพอที่จะล้างผมจากการสระ แล้วก็ทำการสระตามปกติ แล้วนำน้ำที่เราผสมไว้ มาล้างผมในน้ำสุดท้ายของการสระผม ก็จะช่วยลดความมันได้เช่นกัน
นอกเหนือจากที่ได้กล่าวมา ก็ยังมีอีกวิธีที่จะช่วยลดความมันบนหนังศรีษะ(วิธีสุดท้ายแล้วนะ) คือการหมักผมด้วยว่านหางจระเข้ผสมมะนาว ด้วยการนำว่านหางจระเข้มาปลอกเอาส่วนที่เป็นวุ้นปริมาณเอาแค่พอที่จะใช้หมักพอนะ ผมสั้นผมยาวก็ประมาณดู นำมาบดให้ละเอียดผสมกับน้ำมะนาว 1 ลูก เสร็จแล้วก็นำมาหมักและนวดบนศรีษะและเส้นผม ทิ้งไว้สัก 5 นาที แล้วจึงล้างออกด้วยแชมพูและครีมนวด(ตามปกติ) แล้วจะเห็นว่าความมันจากที่เคยมันเยิ้มจะลดลงได้ แล้วปัญหาผมมันที่เคยกวนใจ ก็จะเบาบางลงไป ส่วนใครจะใช้วิธีไหนก็แล้วแต่ความต้องการของแต่ละบุคคล จะได้หมดกังวลเรื่องผมมันกันซะที
สาเหตุที่ทำให้ผมมันคือการที่ต่อมไขมันผลิตน้ำมันออกมาในปริมาณที่มากเกินไป อาจเกิดจากหนังศรีษะแห้ง(ไอ้ที่มันแห้งส่วนหนึ่งก็มาจากการสระผมบ่อยเกินไปนะ) หรือแชมพูและครีมนวดที่มีความเข้มข้นสูง บางทีการล้างออกอาจไม่หมดเกลี้ยงโดยเฉพาะคนที่ผมยาวและหนามาก ๆ ก็จะเกิดการสะสมและตกค้างอยู่บนหนังศรีษะความมันก็ย่อมต้องเกิดขึ้น บางรายก็ใส่น้ำมันจัดแต่งทรงผมทุกวันก็ทำให้ผมมันได้เช่นกัน นอกจากนี้ก็ยังมีบางคนที่เป็นเพราะมีคนในครอบครัวอย่างพ่อแม่ก็ผมมัน ลูกก็ต้องผมมันตามอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้เพราะสาเหตุอันมาจากกรรมพันธุ์ของตัวเองอันนี้ก็แย่หน่อย
จากการทดลองด้วยตัวเองบ้าง จากข้อมูลต่าง ๆ ทางอินเตอร์เน็ตบ้าง พอจะหาวิธีช่วยให้คนที่ผมมัน พอจะมีทางเลือกสู่แสงสว่างขึ้นมาบ้าง(แหมดูเว่อร์ ๆ เนอะ) บางท่านแนะนำว่าให้ลองใช้แชมพูเด็กสระผมแล้วไม่ต้องใส่ครีมนวดใด ๆ ทั้งสิ้น ก็ลองแล้วได้ผลในระดับนึงแต่บางคนนอกจากจะผมมันแล้วยังผมเสียอีก ถ้าไม่ใส่ครีมนวด หมักทรีทเม้นต์บำรุงก็ไม่ไหว แชมพูเด็กก็คือแชมพูเด็ก ไม่มีสารบำรุงมากพอต่อการดูแลเส้นผมที่เสียมาก ๆ ก็ต้องหันไปพึ่งแชมพูผู้ใหญ่...หมายถึงแชมพูเฉพาะที่เป็นสูตรสำหรับคนผมมันนั่นเอง แชมพูประเภทนี้จะมีค่า ph ที่ 5.5 - 6.5 ดูเหมาะกับสภาพผมมันที่สุดแล้ว หากต้องการใส่ทรีทเม้นต์ ก็ควรใส่แค่ตรงบริเวณส่วนปลายผม เพื่อลดความมันที่จะสะสมบนหนังศรีษะให้น้อยลง แต่หากยังไม่หาย ก็ขอแนะนำวิธีแบบธรรมชาติ ๆ ดูบ้าง ลองเดินเข้าไปในครัวมองหามะนาวสัก 1 ลูก กับน้ำส้มสายชูสัก 1 ช้อนโต๊ะ ผสมกับน้ำในปริมาณพอที่จะล้างผมจากการสระ แล้วก็ทำการสระตามปกติ แล้วนำน้ำที่เราผสมไว้ มาล้างผมในน้ำสุดท้ายของการสระผม ก็จะช่วยลดความมันได้เช่นกัน
นอกเหนือจากที่ได้กล่าวมา ก็ยังมีอีกวิธีที่จะช่วยลดความมันบนหนังศรีษะ(วิธีสุดท้ายแล้วนะ) คือการหมักผมด้วยว่านหางจระเข้ผสมมะนาว ด้วยการนำว่านหางจระเข้มาปลอกเอาส่วนที่เป็นวุ้นปริมาณเอาแค่พอที่จะใช้หมักพอนะ ผมสั้นผมยาวก็ประมาณดู นำมาบดให้ละเอียดผสมกับน้ำมะนาว 1 ลูก เสร็จแล้วก็นำมาหมักและนวดบนศรีษะและเส้นผม ทิ้งไว้สัก 5 นาที แล้วจึงล้างออกด้วยแชมพูและครีมนวด(ตามปกติ) แล้วจะเห็นว่าความมันจากที่เคยมันเยิ้มจะลดลงได้ แล้วปัญหาผมมันที่เคยกวนใจ ก็จะเบาบางลงไป ส่วนใครจะใช้วิธีไหนก็แล้วแต่ความต้องการของแต่ละบุคคล จะได้หมดกังวลเรื่องผมมันกันซะที
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น